สารบัญ
คำอธิบายปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño)
ปรากฏการณ์ เอลนีโญ (El Niño) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อกระแสน้ำอุ่นจากมหาสมุทรแปซิฟิกเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออก มักเกิดขึ้นทุก 2-7 ปี ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงของปริมาณฝน ความร้อน และลมที่ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่าง ภัยแล้ง และ น้ำท่วม ในหลายพื้นที่
ผลกระทบของเอลนีโญ
- สภาพอากาศที่แปรปรวน
เอลนีโญทำให้สภาพอากาศในหลายภูมิภาคแปรปรวนอย่างรุนแรง เช่น ในบางพื้นที่อาจเกิดฝนตกหนักจนน้ำท่วม ขณะที่บางพื้นที่อาจเกิดภัยแล้งเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบต่อการเกษตร และแหล่งน้ำธรรมชาติ - ผลกระทบต่อการเกษตร
ปริมาณฝนที่ไม่สม่ำเสมอและภัยแล้งที่ยาวนาน ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง โดยเฉพาะในประเทศที่พึ่งพาการเกษตรเป็นหลัก เอลนีโญยังมีผลกระทบต่อการจับสัตว์น้ำ เพราะทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลให้ปลาและสัตว์ทะเลจำนวนมากหายไป - การเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศ
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝนจากเอลนีโญยังมีผลต่อสิ่งมีชีวิตและพืชพันธุ์ในระบบนิเวศ ป่าฝนและพื้นที่ธรรมชาติบางแห่งอาจแห้งแล้ง ทำให้สัตว์ต้องอพยพหรือเสียชีวิต - ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
การที่ผลผลิตทางการเกษตรลดลงและการประมงเสียหายทำให้เศรษฐกิจในหลายประเทศที่พึ่งพาทรัพยากรเหล่านี้ประสบปัญหา เศรษฐกิจในระดับครัวเรือนอาจได้รับผลกระทบในเรื่องของรายได้ที่ลดลง
วิธีป้องกันและปรับตัวจากเอลนีโญ
- การติดตามและคาดการณ์
ปัจจุบันการติดตามปรากฏการณ์เอลนีโญมีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งช่วยให้รัฐบาลและเกษตรกรเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ - การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
ในพื้นที่ที่คาดว่าจะเกิดภัยแล้ง การกักเก็บน้ำและการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการลดผลกระทบ - การสนับสนุนด้านการเกษตร
รัฐบาลและองค์กรสามารถช่วยเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเกษตรที่เหมาะสมต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น การปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย
ช่วงเวลาที่เกิด ปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) ในประเทศไทย คือช่วงเดือนไหน ปีไหน
ปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่จะเกิดขึ้นทุกๆ 2-7 ปี โดยระยะเวลาของเอลนีโญแต่ละครั้งอาจแตกต่างกัน โดยทั่วไปจะกินระยะเวลาประมาณ 9-12 เดือน และมักเกิดในช่วงปลายปี (ประมาณเดือนตุลาคม-ธันวาคม) และสามารถส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในช่วงต้นปีถัดไป (เช่น มกราคม-เมษายน)
ในประเทศไทย ผลกระทบของเอลนีโญมักปรากฏชัดเจนในรูปของ ภัยแล้ง และ อุณหภูมิที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วง ฤดูร้อน (มีนาคม-พฤษภาคม) ที่มีความแห้งแล้งมากกว่าปกติ ตัวอย่างช่วงเวลาที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ได้แก่
- ปี 1982-1983 เอลนีโญที่รุนแรงส่งผลให้เกิดภัยแล้งและสภาพอากาศร้อนในหลายภูมิภาคของประเทศไทย
- ปี 1997-1998 เป็นหนึ่งในครั้งที่รุนแรงที่สุด เอลนีโญครั้งนี้ทำให้ประเทศไทยเผชิญกับความแห้งแล้งอย่างหนัก
- ปี 2015-2016 เอลนีโญทำให้ประเทศไทยเจอปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ดังนั้น ปรากฏการณ์เอลนีโญในประเทศไทยมักเริ่มส่งผลกระทบในช่วงต้นปี (มกราคม-เมษายน) ซึ่งตรงกับฤดูแล้งและฤดูร้อนของประเทศไทย